Niacinamide ( วิตามิน บี3 ) กับผิวหน้ามัน

อาการหน้ามัน VS Niacinamide ( วิตามิน บี3 )

.

.

อาการหน้ามัน เกิดจากต่อมไขมันหลั่งน้ำมันออกมามากจนเกินไป ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นคือ ฮอร์โมน รวมถึงเครื่องสำอางค์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ซึ่งการอักเสบจะทำให้ต่อมไขมันหลั่งน้ำมันออกมาเพิ่มมากขึ้นครับ และในทางการแพทย์พบว่า สิ่งที่มีผลต่อการผลิตไขมันจากต่อมไขมันได้น้อยลง คือ Isotretinoin (Roaccutane, Acnotin) และ ยาคุมครับ แต่ยาทั้งสองชนิดจะมีข้อจำกัดในการใช้ คือ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและการติดตามผลจากแพทย์ ส่วนยาคุมส่วนมากจะเป็นผู้หญิงที่ใช้

.

.

.

    เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยทางการแพทย์ได้พบสารที่เรารู้จักกันดีคือ Niacinamide (วิตามินบี 3) หากใช้ความเข้มข้นที่เหมาะสม จะช่วยลดความมันบนใบหน้า โดยลดการผลิตไขมันจากต่อมไขมันครับ เนื่อจากข้อจำกัดของการใช้ยาที่ควบคุมความมันบนใบหน้าตามที่กล่าวมาข้างต้น ทางบริษัทจึงผสม Niacinamide ลงไปใน Dermaklear ใช้ความเข้มข้นที่เหมาะสม เพื่อควบคุมความมันที่เกิดขึ้นบนใบหน้ารวมถึงยังคงประสิทธิภาพของสรรพคุณอย่างอื่นเอาไว้ เช่น การยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่มีผลต่อการสร้างเม็ดสี เพราะหากมีการสร้างเม็ดสีมากไป จะทำให้เกิด รอยดำ รอยแดง และฝ้าบนใบหน้าครับ 

.

.

.

     นอกจากใช้ Dermaklear ดูแลผิวหน้าแล้ว ตัวเราเองก็ต้องดูแลผิวหน้าของเราด้วยนะครับ เช่น เลือกโทนเนอร์หรือคลีนเซอร์ ที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ในปริมาณที่สูง, การใช้กระดาษซับมันระหว่างวันในช่วงของการรอประสิทธิภาพของ Dermaklear ทำงาน ซึ่งบางคนต้องรอถึง 2 สัปดาห์ บางคน 4 สัปดาห์ครับ, การล้างหน้าที่ควรล้างแค่วันละ 2 ครั้ง เท่านี้ก็จะช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดสิสบนใบหน้าได้ครับผม